Tuesday, December 14, 2010

Gustav Klimt's The Kiss จุมพิตนั้นช่างตราตรึงใจ

หนึ่งในศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุดคงหนีไม่พ้น กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) จิตรกรแนวซิมบอลิสม์ (Symbolism) และอาร์ตนูโว (Art Nuveau) ชาวออสเตรีย ภาพเขียนของเขาหลายภาพได้่มีการนำทองคำเปลวมาใช้ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากวงการศิลปะอย่างแพร่หลาย ภาพวาดของเขาได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบบิสแซนไทน์ค่อนข้างมาก ศิลปะในแบบของคลิมท์มักเป็นที่กังขาในวงการด้วยความที่เขามักจะใช้สัญลักษณ์ในการตีความที่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องจนเกินพอดี และบางครั้งยากที่จะแบ่งแยกได้ว่ามันคือภาพโป๊หรือภาพศิลปะกันแน่ หากจะกล่าวได้เช่นกันว่าคลิมท์เป็นศิลปินแนวอิโรติกซิสม์ (Eroticism)ก็คงไม่ใช่สิ่งที่น่ากังขาอะไรมากนัก

ในจำนวนภาพเขียนทั้งหมดของคลิมท์ งานที่เป็นรู้จักกันมากที่สุดคือภาพ The Kiss ภาพเขียนซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจมากทีเดียว

ชื่อภาพ: เดอะ คิส (The Kiss)
ศิลปิน: กุสตาฟ คลิมท์
เทคนิค: สีน้ำมันและทองคำเปลวบนผืนผ้าใบ

Monday, December 13, 2010

Grant Wood's American Gothic หนึ่งในภาพที่ถูกนำมาล้อเลียนมากที่สุดในอเมริกา

หากเราได้ดูรายการทีวีหรือโชว์จากฝั่งอเมริกากันบ่อยๆเราคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับภาพที่มีชื่อว่า American Gothic ภาพชาวนาชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่หน้าบ้านสีขาว หน้าตาท่าทางดูซีเรียสจริงจัง หากใครนึกออกแล้วถือว่าเก่งมากและคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้วงการบันเทิงฝั่งอเมริกันตัวจริง แต่ถ้ายังนึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีภาพโพสไว้ให้ดูด้านล่าง ภาพนี้คือภาพที่จะเป็นหัวข้อบล๊อกของเราในวันนี้:

ชื่อภาพ: อเมริกัน กอธิค (American Gothic)
ศิลปิน: แกรนท์ วู้ด
เทคนิค: สีน้ำมันบนผืนผ้าใบ

Sunday, December 12, 2010

Claude Monet's Water Lillies ราชินีแห่งไม้น้ำกับยอดจิตรกรเอกแห่งยุค

 หนึ่งในชุดภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของ โกลด โมเน (Claude Monet) จิตรกรชาวฝรั่งเศสที่โดดเด่นในงานแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) คือภาพชุดสระบัว หรือ Water Lillies ซึ่งประกอบไปด้วยภาพเขียนรูปดอกบัวน้ำกว่า 250 ภาพที่มีแรงบันดาลใจมาจากสวนในบ้านของโมเนที่ฌิแวร์นี่ (Giverny) ตลอดช่วงสามสิบปีหลังในชีวิตของเขา หลายภาพทีเดียวที่เขียนขึ้นในช่วงที่โมเนเองต้องทรมาณกับภาวะต้อกระจก ภาพเขียนชุดนี่กระจัดกระจายไปยังแกลอรี่ต่างๆทั่วโลก และแต่ละภาพมีราคาขนาดเลขหกหลักเจ็ดหลักกันเลยทีเดียว


 Water-Lilies, 1914-1917, Toledo Museum of Art

Friday, December 10, 2010

Eternal Sunshine of the Spotless Mind เพราะความจำในหัวมันลบง่าย แต่ความจำในใจมันลบยาก

หนังที่จะติดอันดับสุดยอดในใจเราตลอดการคงไม่พ้น Eternal Sunshine of the Spotless Mind เรื่องนี้ เป็นหนังที่มีคอนเซปต์เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งตรึงใจ มีอะไรให้เก็บไปคิดได้มากมายแม้ว่าหนังจะจบไปหลายปีดีดักแล้วก็ตาม เราคลำทางมาเจอหนังเรื่องนี้เพราะชื่อของผู้กำกับคนโปรด Michel Gondry ที่เรารู้จักดีในฐานะผู้กำกับมิวสิควิดิโอสุดเจ๋ง มันช่างสะดุดตา ประกอบกับดาราที่ไม่น่ามาประกบคู่กันได้อย่าง จิม แครีย์ กับ เคท วินสเล็ต ก็มากพอที่ทำให้เราตัดสินใจหยิบลงจากชั้นดีวีดีของพ่อมาดูในกลางดึกคืนหนึ่งเมื่อประมาณเกือบสี่ห้าปีที่แล้ว


Thursday, December 9, 2010

The Darjeeling Limited ทางรถไฟสายรัก

อันนี้ต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่นักวิจารณ์หรือพยายามจะเขียนเรื่องหนังในแบบระดับตำนานตามปรมาจารย์ดูหนังท่านไหน แต่เราเขียนตามความรู้สึกเรา เพราะฉะนั้นจะผิดจะถูกยังไงก็ต้องบอกไปเพียงแค่ว่า "เอิ่ม ก็เราดูแล้วเราคิดงี้อ่ะ" ล่ะนะท่านทั้งหลาย

หากมีคนถามว่าหนังเรื่องอะไรที่ดูแล้วประทับใจที่สุด หนึ่งในนั้นคงไม่พ้น The Darjeeling Limited หนังทุนต่ำดูสบายๆของผู้กำกับคนโปรด Wes Anderson เจ้าของผลงานอมตะ Rushmore และ The Royal Tenenbaums ซึ่งเรื่องหลังติดดีกรีเป็นหนึ่งในหนังยอดเยี่ยมที่สุดในรอบทศวรรษจากหลายๆสถาบันเลยทีเดียว


Tuesday, December 7, 2010

Federico da Montefeltro กับดั้งจมูกนั้น?

ย้อนกลับไปหลายปีที่แล้ว สมัยเด็กๆ วันดีคืนดีพ่อจะเอาตำราเรียนเก่าๆออกมากางแล้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับภาพศิลปะมากมายที่พ่อเคยเรียน เราก็ฟังด้วยความสนใจบ้างไม่สนใจบ้างตามประสาเด็กๆ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เองที่เรากลับมาสนใจด้านภาพเขียนอีกครั้ง ทำให้เรานึกขึ้นมาได้ ในจำนวนภาพทั้งหมดที่พ่อเคยเล่าเรื่องความเป็นมาให้ฟัง มันมีภาพนึงที่สะดุดตากว่าใคร และเราจำได้ไม่ลืม เป็นภาพบุรุษชุดแดง ใบหน้าหันข้าง ดูน่าเกรงขาม ฟังดูก็คงเป็นเหมือนภาพพอเทรท (ภาพเหมือน) ทั่วไป แต่สำหรับเรามันมีอะไรมากกว่านั้น มันติดตา เพราะในความสวยงามของภาพนั้น มันมีบางอย่างที่ขาดหายไป


Federico da Montefeltro. Portrait byPiero della Francesca.