Water-Lilies, 1914-1917, Toledo Museum of Art
The Water Lily Pond, 1899
Water-Lily Pond, c.1915-1926, Chichu Art Museum, Japan
Nympheas, 1915, Neue Pinakothek,Munich
Sea-Roses (Yellow Nirwana), 1920,National Gallery London
Water Lilies, 1907 The Museum of Fine Arts, Houston
Water Lillies II, 1914
Water Lillies
เราค้นพบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพของโมเนมีชื่อเสียงโด่งดังไปท่วโลกเพราะการที่เขาให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในภาพอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีดอกไม้ดอกไหนเด่นกว่าดอกอื่น และไม่มีต้นไม้ต้นไหนเด่นไปกว่าต้นอื่นเช่นกัน เหตุที่เขาใช้สีลงเป็นจุดๆเรื่อยมาจนเกิดเป็นภาพเพราะ "แสง" ที่มันลงมากระทบองค์ประกอบภาพอื่นๆส่งผลให้เกิดเป็น "สี" ที่หลากหลายอย่างที่เห็น นับว่าเป็นศิลปินที่มีเทคนิคการลงสีที่โดดเด่น เพราะสามารถดึงเอาความสวยงามของ "แสง" ออกมาได้อย่างไม่มีที่ติ ซึ่งน้อยคนนักจะสามารถทำได้ การใช้แสงมาผสมจนเกิดเป็นสีสันสวยงามละลานตาเช่นนี้นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการวาดรูปแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ และผลงานของโมเนหลายๆชิ้นงานก็เป็นแม่แบบและแรงบันดาลใจให้ศิลปินหลายๆคนสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกให้กับวงการศิลปะโลกอีกหลายต่อหลายชิ้นในเวลาต่อมา
หลังจากที่เคยได้ยินแต่ชื่อมาเป็นสิบปี เราได้มีโอกาสเห็นงานของโมเนด้วยตาตัวเองก็ตอนที่ได้ไปตะลุยหอศิลป์มาหลายแห่งในญี่ปุ่นเมื่อปิดเทอมที่ผ่านมานี่เอง เราเลยเข้าใจว่าทำไมโมเนถึงได้รับการยกย่องในวงการมากมายขนาดนี้ เราชอบงานของเขามากตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะเพราะมันมีเอกลักษณ์ และการได้มองภาพของโมเนเหมือนการเข้าไปอยู่ในความฝันของใครสักคนที่สวยงามมากจนเราไม่อยากตื่น มันเต็มไปด้วยสีสันและจิตวิญญาณอ่ะ เวลาที่เรามองดูวิวทิวทัศน์ที่เขาวาดมันก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นั้นไปด้วย จริงๆเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าในวงการเขาตีความกันยังไงสำหรับแต่ละชิ้นงานของโมเน เราแค่รู้ว่ามันเหมือนความฝันอ่ะ ภาพวาดของเขา น่าเสียดายที่ตอนนั้นเราไม่ได้หาข้อมูลไปมากนัก ตอนนี้่ก็จำไม่ได้แล้วด้วยว่าไปดูภาพอะไรมาบ้าง จำได้แต่ความรู้สึกในตอนนั้นว่ามันรู้สึกดีในใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะภาพวาดมันดูสดใส และเปี่ยมไปด้วยความหวัง นำความรู้สึกดีดีเข้ามาในหัวใจเราได้จริงๆ
No comments:
Post a Comment